ไวรัสตับอักเสบซี คืออะไร? รู้ทันโรคก่อนลุกลาม
- hivteam
- Jun 29
- 2 min read

ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Virus : HCV) คือ หนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบเรื้อรัง ที่อาจลุกลามไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับในระยะยาว แม้ว่าโรคนี้จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ปัญหาหลักคือผู้ติดเชื้อมักไม่รู้ตัว เพราะอาการในระยะเริ่มต้นแทบไม่มีหรือมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้การวินิจฉัยช้า และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันประเทศไทยให้ความสำคัญกับการป้องกันและตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ ซึ่งมีการให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาในสถานพยาบาลคุณภาพ เช่น ฮักษาคลินิก เชียงใหม่ ที่ให้บริการแบบเป็นมิตร และมีความเป็นมืออาชีพสูง
ไวรัสตับอักเสบซี คืออะไร และทำไมจึงเป็นปัญหาสาธารณสุข ?
ไวรัสตับอักเสบซี เป็นไวรัสที่แพร่ผ่านทางเลือดเป็นหลัก และมีความสามารถในการก่อให้เกิดการติดเชื้อเรื้อรังในตับได้มากถึง 70–85% ของผู้ที่ติดเชื้อทั้งหมด ต่างจากไวรัสตับอักเสบชนิดอื่น HCV ไม่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน จึงทำให้การควบคุมโรคนี้ต้องพึ่งพาการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัยและการรักษาเป็นหลัก ในระดับโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อ HCV ประมาณ 58 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของ HCV มากกว่า 290,000 คนต่อปี ข้อมูลในประเทศไทยยังแสดงให้เห็นว่าภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างเชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อเรื้อรังในกลุ่มประชากรบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่เคยรับเลือดก่อนปี 2535 หรือผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องเร่งรัดการคัดกรองและรักษาอย่างจริงจัง
ไวรัสตับอักเสบซี อาการของโรคในแต่ละระยะ

อาการของ HCV แบ่งได้เป็น 2 ระยะ ได้แก่
1. ระยะเฉียบพลัน (Acute Phase) เกิดขึ้นภายใน 2–12 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการชัดเจน อาจมีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดกล้ามเนื้อ ปัสสาวะสีเข้ม ตัวเหลือง ตาเหลือง ในบางราย
2. ระยะเรื้อรัง (Chronic Phase) ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ภาวะเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว และยังคงสามารถแพร่เชื้อได้ อาการอาจยังคงไม่ชัดเจนหรือมีอาการเรื้อรัง เช่น
อ่อนเพลียเรื้อรัง
ปวดใต้ชายโครงขวา
เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
อารมณ์แปรปรวน
หลังจากติดเชื้อเรื้อรังมาเป็นเวลาหลายปี เชื้อไวรัสอาจทำให้เกิดภาวะตับแข็ง หรือแม้แต่มะเร็งตับ ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา มีโอกาสเสียชีวิตสูง
ไวรัสตับอักเสบซี ติดต่อกันได้อย่างไร ?
HCV แพร่กระจายผ่านทางเลือดของผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายของผู้อื่น การติดเชื้อส่วนใหญ่มักเกิดจาก
การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในกลุ่มผู้เสพยา
การรับเลือดที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองก่อนปี 2535 (พบได้น้อย)
การสัก เจาะร่างกาย หรือทำฟันในสถานพยาบาลที่ไม่มีมาตรฐานปลอดเชื้อ
การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่มีการป้องกัน แม้จะพบโอกาสต่ำกว่าการติดเชื้อทางเลือดโดยตรง
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย มันจะเข้าไปอยู่ในเซลล์ตับและเริ่มทำลายเซลล์ตับเรื่อย ๆ แบบช้า ๆ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักไม่มีอาการใด ๆ ในช่วงแรก จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ตับแข็งหรือมะเร็งตับ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานนับสิบปี
กลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับการตรวจไวรัสตับอักเสบซี
ผู้ที่เคยได้รับเลือดหรือผลิตภัณฑ์เลือดก่อนปี 2535
ผู้ที่เคยใช้ยาเสพติดชนิดฉีด หรือมีประวัติใช้เข็มร่วม
ผู้ที่เคยได้รับการสัก เจาะร่างกาย หรือทำฟันในสถานบริการที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม
ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือมีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
ผู้ที่มีผลเลือดแสดงภาวะตับอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผู้ที่ติดเชื้อ HIV
บุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสสัมผัสเลือดผู้ป่วย
วิธีการตรวจวินิจฉัย ไวรัสตับอักเสบซี

การตรวจหา HCV ต้องทำผ่านการตรวจเลือด โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้
ตรวจแอนติบอดีต่อ HCV (Anti-HCV): เป็นการตรวจเพื่อดูว่าร่างกายเคยสัมผัสกับเชื้อหรือไม่ หากผลเป็นบวก แสดงว่าอาจมีการติดเชื้อ HCV มาก่อนหรือกำลังติดเชื้อ
ตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส (HCV RNA): เพื่อยืนยันว่ามีเชื้ออยู่ในร่างกายจริงหรือไม่ เป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยว่าติดเชื้อเรื้อรังหรือไม่
ตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์ของ HCV (Genotype): เพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากยารักษาบางชนิดมีประสิทธิภาพแตกต่างกันตามชนิดของสายพันธุ์
ตรวจค่าการทำงานของตับ เช่น ALT, AST, Fibroscan หรือ Liver Biopsy: เพื่อตรวจสอบความเสียหายของตับ และติดตามผลการรักษา
วิธีป้องกันไวรัสตับอักเสบซีในชีวิตประจำวัน
หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ
ใช้ถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสเลือดหรือน้ำเหลืองผู้อื่น
เลือกรับบริการจากสถานเสริมความงามหรือสถานพยาบาลที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติดชนิดฉีด
หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน
ตรวจเลือดเป็นประจำ โดยเฉพาะหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
แนวโน้มและการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสตับอักเสบซีในประเทศไทย
ประเทศไทยกำลังเดินหน้าตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องการกำจัดไวรัสตับอักเสบซีให้หมดไปภายในปี 2030 โดยผ่านการดำเนินงาน 3 เสาหลัก ได้แก่ การคัดกรองที่ครอบคลุม, การเข้าถึงการรักษา และการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ในจังหวัดเชียงใหม่มีการขับเคลื่อนโครงการร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อเพิ่มการตรวจคัดกรองให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ต้องขัง, กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย, ผู้ใช้ยาเสพติด และผู้ป่วย HIV ที่มีความเสี่ยงร่วม นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่อาจเคยได้รับเลือดหรือรับบริการทางการแพทย์ในช่วงที่ระบบการคัดกรองยังไม่พัฒนาเท่าปัจจุบัน
ไวรัสตับอักเสบซี กับแนวทางการรักษาในปัจจุบัน

การรักษาไวรัสตับอักเสบซีในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงมาก ด้วยการใช้ยาต้านไวรัสแบบตรงจุด (DAAs: Direct-Acting Antivirals) ซึ่งมีอัตราการรักษาหายถึง 95% และมีผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับการใช้ยาแบบเก่า เช่น อินเตอร์เฟอรอน การรักษาจะใช้เวลาประมาณ 8–12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์ไวรัสและระดับความเสียหายของตับ โดยในประเทศไทย ยาบางชนิดอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ในราคาย่อมเยา หรือไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยในระบบประกันสุขภาพ
นอกจากนี้ คลินิกเอกชนคุณภาพ เช่น ฮักษาคลินิก เชียงใหม่ ยังให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วยความเป็นส่วนตัวสูง และมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
ความสำคัญของการตรวจและรักษา ไวรัสตับอักเสบซีที่ ฮักษาคลินิก เชียงใหม่
ฮักษาคลินิก เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในสถานพยาบาลที่ให้ความสำคัญกับการตรวจและรักษาโรคติดเชื้ออย่างไวรัสตับอักเสบซี โดยเน้นความแม่นยำ รวดเร็ว และให้บริการที่ปลอดภัยแก่ผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย
คลินิกมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคติดต่อและระบบตับ พร้อมเครื่องมือตรวจวิเคราะห์คุณภาพสูง สำหรับประเมินภาวะพังผืดในตับ และการให้คำปรึกษาด้านการรักษาแบบองค์รวม ทั้งในกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มทั่วไป นอกจากนี้ ฮักษาคลินิกยังมีบริการให้คำปรึกษาด้านการป้องกัน และตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบอื่น ๆ เช่น HBV และ HIV อย่างครบวงจร พร้อมการรักษาแบบไม่ตีตรา
อ่านบทความอื่นๆ
ช่องทางการติดต่อเรา
ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่
ตั้งอยู่ที่ 77/7 ถนน คชสาร ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
เปิดบริการทุกวัน
จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 20.00 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.
สอบถามผ่าน Line id. @hugsaclinic (มี @ ด้วยนะครับ)
เบอร์โทรติดต่อ ☎ 093 309 9988
แผนที่คลินิก 🚗 https://g.page/hugsa-medical?share
จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me
ไวรัสตับอักเสบซี เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที แม้จะเป็นไวรัสที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ด้วยการรักษาด้วยยา ที่มีประสิทธิภาพสูง และการขยายบริการตรวจคัดกรองในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน เช่น ฮักษาคลินิก เชียงใหม่ ทำให้โอกาสในการควบคุมโรคนี้อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคในระยะยาว
อ้างอิง
World Health Organization (WHO). Global Hepatitis Report 2024. https://www.who.int
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการดูแลรักษาไวรัสตับอักเสบซี. https://ddc.moph.go.th

Comments